''เหรียญทอง'' ทีมเดี่ยวชายและหญิงที่สอยมาได้ เมื่อค่ำวันที่ 15 ธ.ค. ที่ผ่านมา ทำให้จำนวนเหรียญทองของตะกร้อไทยในซีเกมส์
ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 5 เหรียญทอง
สมาคมตะกร้อแห่งประเทศไทย ภายใต้การบัญชาการของ ''บิ๊กจา'' พล.ต.จารึก อารีราชการัณย์ ประมุขตะกร้อไทย ประกาศว่า 5 เหรียญทองนั้น จะมาจากลอดห่วงสากลชาย, ทีมชุดชาย, ทีมชุดหญิง, ทีมเดี่ยวชาย และทีมเดี่ยวหญิง
ทุกรายการทยอยเก็บจนได้ครบถ้วน...ตอนนี้ตะกร้อไทย สอบผ่านแล้วใน ''เวียงจันทน์เกมส์''
อย่าง ไรก็ตามในเกมประเภททีมเดี่ยวนั้น ก็ใช่ว่านักหวดลูกพลาสติกจากสยามประเทศ จะไขว่คว้ามาได้ง่ายๆ ในการดวลกับคู่ต่อสู้ในรอบชิงชนะเลิศ ถึงแม้ว่าไทย จะครองความยิ่งใหญ่มานานกว่าทศวรรษ แต่เกมรอบชิงชนะเลิศนั้นก็ทำเอาแฟนๆ หายใจไม่ทั่วท้องเช่นกัน
ทั้งจากทีมหญิง แล ทีมชาย...
โดย ทีมหญิง ที่ลงสังเวียนชิงชัยเป็นรายการแรกนั้น การเผชิญหน้ากับคู่กัดอย่างเวียดนาม คือศึกหนักหนาสาหัสยิ่งนัก และเป็นเกมที่ห้ามประมาทโดยเด็ดขาด เพราะรอยแผลจากเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 15 ที่โดฮา กาตาร์ ที่สาวญวน กรีดนั้นยังเห็นรอยแผลเป็น
นอกจากนี้เวียดนาม ทีมเดี่ยวชุดนี้ คือชุดเก่ง ทั้ง ลู ทิ ทรัง, เหงียง ทิ บิค ทุย และ เหงียน ไฮ เทา ในเกมชิงทีมชุดยังปราบสาวไทย มาแล้ว ก่อนที่ไทย จะเฮในทีมสาม
เกม นี้ผู้เล่นไทย ประกอบด้วย ''เพชฌมาตเงียบ'' นิตินัดดา แก้วคำไสย์, อารีรัตน์ ตาขัน และ ธิดาวรรณ ดาวสกุล ซึ่งเซตแรกสาวญวน ก็ช็อกกองเชียร์ที่หลั่งไหลเข้ามาให้กำลังใจล้นหลาม ด้วยการเชือดสาวไทย โชว์ก่อน 21-19
เซต แรกที่เสียไปนั้น เป็นเพราะสาวไทย เล่นเสียง่ายเกินไป เปิดรับลูกเสิร์ฟไม่ได้ ขณะที่ ธิดาวรรณ กลายเป็นจุดบอดให้ บิค ทุย ทิ่มลูกเสิร์ฟใส่จนเป๋ และเสียฟาวล์หลายหน
ระหว่าง เกม ''ซันชิโร่'' วีรัส ณ หนองคาย ต้องสั่งแก้เกมให้เดินเกมช้าลงไม่ต้องรีบ และสั่งให้ ธิดาวรรณ เปิดลูกด้วยศีรษะ เพราะเสียตลอด และการยืนตำแหน่งรอขึ้นฟาดอย่ายืนชิดเนตเกินไป ให้ห่างเนตประมาณ 1 วา เพื่อป้องกันการทำฟาวล์โดนเนต
ปรากฏว่าได้ผล เกมในเซตที่สองของทีมสาวไทย นั้นเริ่มดี สามารถปิดเกมเสิร์ฟของเวียดนามได้ ธิดาวรรณ เองก็ตีได้ไม่พลาดเหมือนเดิม
และที่สำคัญ ''น้องอุ้ม-นิตินัดดา'' เริ่มคลำเป้าเจอเพลงเสิร์ฟพลังเงียบเริ่มแผลงฤทธิ์
เปรี้ยงแล้วเปรี้ยงเล่า กดดันจนเกมเวียดนาม ป่วน ไทยถล่มยับ 21-8 ตีเสมอ 1-1 เซต
จาก นั้นในเซตสาม เกมยังตกเป็นของสาวไทย ที่ทำได้เหนือกว่า เป็นฝ่ายออกนำไปตั้งแต่แรก เวียดนามพยายามตั้งลำสู้แต่ไม่ทันการณ์เสียแล้ว ฟอร์มสาวไทย กลับคืนมาแล้วเอาชนะไปได้อีก 15-9 ปิดแมตช์ขยี้ 2-1 เซต
ป้องกันบัลลังก์และคว้าแชมป์เป็นสมัยที่ 5
''เซต แรกเล่นเสียเองมากไป และเปิดลูกเสิร์ฟไม่ได้ อีกทั้งโดนจับฟาวล์ด้วยทำให้เกร็ง และกดดันเหมือนกัน แต่ยังเชื่อว่าเซตสองจะกลับมาชนะได้'' ธิดาวรรณ กล่าวหลังจบเกม ด้วยใบหน้าที่ยิ้มออก
ขณะ ที่ อารีรัตน์ ตาขัน กัปตันทีมจอมเก๋า ชี้ว่า เหตุที่ต้องเหนื่อยหนักเพราะเซตแรกเปิดลูกเสิร์ฟไม่ได้ ซึ่งทางเวียดนาม เองก็เสิร์ฟดีด้วย ต้องยอมรับในจุดนี้ ส่วนไทย นอกจากจะเสียง่ายๆ แล้ว แบ็กก็เสิร์ฟกดดันคู่ต่อสู้ไม่ได้
''แต่ ยังเชื่อนะว่าเซตสองเราจะกลับมา เพราะเชื่อในน้องๆ ร่วมทีมทุกคนดีพอและเหนือกว่าเวียดนาม เพียงแต่เซตแรกเราไปตามเกมคู่ต่อสู้ ซึ่งพอเซตสองไม่เร่ง เปิดลูกเสิร์ฟได้ นิตินัดดา เสิร์ฟได้ ทุกอย่างก็อยู่ในการควบคุมของเรา'' อารีรัตน์ กล่าว
ส่วน ทีมชายนั้น แม้ว่านัดชิงชนะเลิศ คู่ต่อสู้จะไม่ใช่ ''เสือเหลือง'' มาเลเซีย แต่การพบกับลาว เจ้าภาพ ทำเอากองเชียร์ใจหายเหมือนกัน เกมนี้โค้ชไทย กล้าหาญชาญชัย ส่งดาวรุ่งลงทั้งหมด ได้แก่ เกรียงไกร แก้วเมียน, ภัทรพงษ์ ยุพดี และ อนุวัฒน์ ชัยชนะ ซึ่งสองรายหลังนั้น เพิ่งติดซีเกมส์ เป็นหนแรก ส่วน ''โจ้ หลังเท้า'' สืบศักดิ์ ผันสืบ ลอยไว้เป็นสำรอง
เซต แรกนับเป็นเกมที่ตื่นเต้นสุดๆ เพราะลาว นั้นเบียดได้อย่างสูสีคู่คี่เรียกเสียงเชียร์แฟนๆ ได้กระหึ่ม โดยเฉพาะ ดาววี แบ็กดาวรุ่งนั้นแลกหมัดกับ เกรียงไกร ได้ถึงพริกถึงขิง
แต่ ไทย ก็อาศัยประสบการณ์ที่เหนือกว่า เกมรับที่เหนียวกว่าชนะไปในเซตแรก 21-16 ต่อมาเซตสองเกมขาดกระจุย เกรียงไกร เสิร์ฟอย่างเดียวเข้าป้าย 21-10
ไทยป้องกันแชมป์ได้อีกหน และเป็นแชมป์สมัยที่ 11 แล้วสำหรับทีมเดี่ยว
หลัง เกม ''ซูเปอร์เหน่ง'' เกรียงไกร แก้วเมียน กล่าวว่า ตื่นเต้นมากเพราะไม่คิดว่าจะได้ลงเล่นเป็นตัวจริงในทีมเดี่ยว คิดว่าน่าจะเป็น สืบศักดิ์ มากกว่าเพราะมีประสบการณ์ ทำให้เซตแรกเกร็งๆ และพลาดบ่อย อย่างไรก็ตามก็พยายามตั้งสมาธิอยู่กับเกมโดยหายใจเข้าลึกๆ
''ช่วง ต้นเกมเซตแรกยอมรับว่าตื่นเต้นมาก และลูกเสิร์ฟของคู่ต่อสู้แรงจริง แต่ดีที่ก่อนลงสนามโค้ชได้ให้ซ้อมเปิดลูกทั้งเท้าซ้ายและขวา เพื่อเตรียมรับมือแบ็กเสิร์ฟซ้ายของลาว ซึ่งก็ช่วยได้มากทีเดียว''
ด้าน กมล ตันกิมหงษ์ ผู้ฝึกสอน กล่าวสรรเสริญลูกทีมว่า เด็กสร้างที่ลงแข่งขันครั้งนี้สอบผ่านทุกคน และอนาคตไปไกลแน่หากรักษาฟอร์มที่ดีเอาไว้ตลอด
ขณะ ที่ ''บิ๊กจา'' พล.ต.จารึก ยิ้มหน้าบาน หลังเด็กๆ ทำผลงานเข้าเป้า 5 เหรียญทองตามที่ตั้งไว้ ต่อข้อถามว่า กับเหรียญทองสุดท้ายในประเภทคู่ยังจะหวังอยู่หรือไม่
บิ๊กตะกร้อไทย บอกว่า ต้องถามนักกีฬา อยากได้เงินอัดฉีด 2 แสน หรือ 5 หมื่นบาท...
ที่มาข่าว http://www.siamsport.co.th/seagames2009/column_detail.asp
วันพฤหัสบดีที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2552
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น