เป็นไปตามคาด ''ทีมกำปั้นสาวไทย'' มวยสากลสมัครเล่น ส่งแข่งซีเกมส์ 4 รุ่น ได้เข้าชิงเหรียญทอง 2 คน คือ ทัศมาลี ทองจันทร์ ในรุ่น 54 กิโลกรัม และ เปี่ยมวิไล เล่าเปี่ยม รุ่น 57 กิโลกรัม
ส่วนอีกสองสาว เดือนนภา งามล้ำ ในรุ่น 48 กิโลกรัม แพ้นักชกฟิลิปปินส์ไปอย่างน่าเสียดายด้วยการนับคะแนนดิบ และ โสภิดา สะทุมรัมย์ ก็พ่ายสาวปินส์คู่ปรับเก่าไปอย่างสนุก 4-6
โดยในรอบชิงเหรียญทองที่จะมีขึ้น วันพุธที่ 16 ธันวาคม นี้ พลเอก ทวีป จันทรโรจน์ นายกสมาคมฯ และ ''มาดามแอ๊ด'' ภูษิตา จันทรโรจน์ ผู้จัดการทีม มั่นใจว่า 2 เหรียญทองที่ตั้งเป้าไว้...ไม่น่าจะพลาด!!
''น้องเอ็ม'' ทัศมาลี สาวจากอำนาจเจริญ ชนะเจ้าภาพลาวขาดลอย 5-0 ในรอบตัดเชือก แต่ก็ต้องลุ้นเสียวในสองยกแรกที่สกอร์ 0-0 เหมือนกัน จะเข้าไปชิงกับสาวเวียดนาม ดอง ทิ เลียน ที่ชนะอินโดนีเซียมาขาดลอย...ส่วน ''น้องแสบ'' เปี่ยมวิไล สาวจากกำแพงเพชร ล้างแค้นสาวปินส์ให้เพื่อนสำเร็จ เข้าไปชิงกับเวียดนามด้วยเช่นกัน โดยสาวญวนโชคดีชนะอินโดนีเซียมาได้ทั้งที่สกอร์เป็นรอง เพราะสาวชวาดันเจ็บขาซะก่อน
ในรอบรองชนะเลิศ สาวไทยเราได้พิสูจน์ฝีมือกับฟิลิปปินส์อย่างสนุกตื่นเต้นและเร้าใจทุกคน ถึงแม้จะแพ้ 2 และชนะ 1 แต่ก็ถือว่าโชว์ฝีมือได้ประทับใจกองเชียร์ทีเดียว
''น้องใหม่'' เดือนนภา งามล้ำ สาวหน้าหวานจากจังหวัดเชียงใหม่ วัย 21 ปี ดวลหมัดกับ อลิซ แอ๊บเพอร์รี่ อีหนูตากาล็อก (ที่รอบก่อนสร้างเซอร์ไพรส์ทุบสาวเวียดนาม ที่มีดีกรีเหรียญทองศึกเอเชียนอินดอร์เกมส์ซึ่งชนะจีนอย่างยิ่งใหญ่มาแล้ว ได้แบบง่ายดายเหลือเกิน กรรมการจับแพ้เพียงแค่ยกแรก) อย่างถึงพริกถึงขิง สกอร์บีบหัวใจตั้งแต่ยกแรกจนถึงวินาทีสุดท้าย
ก่อนครบสี่ยกจะเสมอกันอยู่ที่ 2-2 ต้องใช้วิธีรวมคะแนนดิบ และเป็นสาวปินส์เฉือนชนะคะแนนไปอย่างระทึกใจ น่าเสียดายที่สุด...เพราะว่ากันตามสายตาแล้ว เดือนนภาชกได้ดีกว่าด้วย หลายหมัดน่าได้แต้มแต่กรรมการไม่ยอมกดแต้มให้
ส่วน ''น้องมุก'' โสภิดา สะทุมรัมย์ นักชกหญิงจากเมืองมวยจังหวัดบุรีรัมย์ ที่เจอกับคู่แค้นสาวฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นเจ้าของเหรียญเงินเวิลด์ คัพ แม้เธอจะอายุน้อยเพียงแค่ 19 ปีเท่านั้น แต่ก็สวมใจสิงห์เดินสาวหมัดสู้กับ แอนนี่ อัลบาเนีย อย่างดุเดือด ตั้งแต่ยกแรกถึงยกสุดท้าย ก่อนพ่ายไป 4-6
ซึ่งมวยหญิงทั้งสองคนแม้ได้แค่เหรียญทองแดง แต่ ''เสธ.วีป'' พลเอก ทวีป จันทรโรจน์ ก็ยังออกปากชื่นชมว่าได้ทำหน้าที่อย่างดีแล้ว ที่เราแพ้ฟิลิปปินส์ไม่ใช่ว่าเราสู้ไม่ได้ หรือฝีมือเขาเหนือกว่ามาก
ทั้งเดือนนภาและโสภิดาเป็นรองตรงประสบการณ์ อายุมวยยังน้อยเท่านั้น ถ้าได้ฝึกฝนพัฒนาฝีมืออย่างต่อเนื่อง มีโอกาสได้ชกทัวร์นาเมนต์ใหญ่ๆ มากขึ้น เชื่อว่าอนาคตทั้งสองคนนี้จะเป็นยอดมวยหญิงชั้นแนวหน้าของทวีปเอเชียได้ไม่ ยาก ขอเพียงอย่าท้อและถอยก่อนก็แล้วกัน
''กีฬาย่อมมีแพ้และมีชนะ วันนี้เราแพ้ ก็ใช่ว่าวันหน้าเราจะไม่มีโอกาสชนะ เดือนนภาได้ข่าวว่าเป็นไข้ก่อนชกมาสองวัน เห็นได้ชัดเลยว่ายกสามกับยกสี่แผ่ว ไม่ค่อยออกหมัดเลย ส่วนโสภิดาต่อยได้ดีขึ้นกว่าที่เจอกันมาในศึกเอเชียนอินดอร์ ตอนนั้นเราแพ้เยอะกว่านี้ อายุของเรายังน้อย ฟิลิปปินส์เขาเก๋ากว่าเรามาก ถ้าได้เจอกันใหม่อีกที วันนั้นอาจเป็นทีของเราบ้างก็ได้'' พลเอก ทวีป จันทรโรจน์ กล่าวให้กำลังใจสองสาว
วันที่ 16 ธันวาคมนี้ ก็มาลุ้นเชียร์กันว่ารอบชิงเหรียญทอง 2 รุ่นของเรา ที่ทัศมาลีและเปี่ยมวิไลจะพิสูจน์ฝีมือกับสาวญวน ใครจะเจ๋งกว่ากัน
นอกจากนั้นยังเป็นการวัดกันว่า 3 ชาติอาเซียน ระหว่าง ไทย-ฟิลิปปินส์-เวียดนาม ใครจะคว้าเหรียญทองได้มากกว่ากัน!!!
ที่มาข่าว http://www.siamsport.co.th/seagames2009/column_detail.asp
วันพุธที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2552
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น