วันอาทิตย์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ราคาและอัตราค่าตั๋วเข้าชมการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 25(The 25th SEA Games Ticket Prices)

สวัสดีครับ วันนี้เอาราคาและอัตราค่าตั๋วเข้าชมการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 25 (The 25th SEA Games Ticket Prices) ทั้งรอบตัดเชือก และรอบสุดท้ายมาฝากกันครับ ซึ่งมีรายการดังต่อไปนี้

The ticket prices for the opening and closing ceremonies at the National Sports Complex (KM 16) are as follow:

- VIP seats are reserved for leaders and government guests
- 500,000 Kip
- 400,000 Kip
- 300,000 Kip
- 200,000 Kip

Note: Tickets include entry to both opening and closing ceremonies.

The ticket prices for all sporting events are as follow:

Sport Price (LAK) Venue Remark
Football Quarter final(Men/Women) 70,000 National Sports Complex under-cover seating
Football Quarter final (Men/Women) 50,000 Chao Anu Vong Stadium out-cover seating
Football Semi final (Men/Women) 100,000 National Sports Complex under-cover seating
Football Semi final (Men/Women) 70,000 Chao Anu Vong Stadium out-cover seating
Badminton 30,000 National Sports Complex Fixed price
Swimming 30,000 National Sports Complex Fixed price
Boxing 50,000 Buengkhayong indoor stadium Fixed price
Pencak Silat, Sepak Takraw, Table Tennis, Wushu 30,000 Lao-ITECC Fixed price
Shuttle cock 30,000 Buengkhayong Indoor Stadium Fixed price
Judo, Karate-do 30,000 Chao Anu Vong Stadium Fixed price
Tennis 30,000 National Sports Complex Fixed price
Volleyball 30,000 National Sports Complex Fixed price
Shooting 30,000 National Sports Complex Fixed price
Taekwondo 20,000 National University of Laos Fixed price
Wrestling 20,000 National University of Laos Fixed price
Cycling Free entrance Patuxai > Tardsone > Dansoung
Golf Free entrance KM 18
Billiards / Snooker Free entrance Donechanh Palace Hotel
Athletics Free entrance National Sports Complex
Petanque Free entrance National University of Laos
Weightlifting Free entrance National University of Laos, Phonsavanh School
Archery Free entrance National Sports Complex

Parking
- Car: 20,000 Kip
- Motorbike: 10,000 Kip

Note: USD 1 = 8,500 LAK
THB 1 = 250 LAK


Official 25th SEA Games Ticket Reservation Agency
Vongkhanty Construction Co., Ltd
Tel: (856-21) 260458 - 59, 214089, 214069, Fax: (856-21) 260457
E-mail: vongkhanty@gmail.com


ที่มาข้อมูล http://www.laosoc.com/ticket_prices.htm

วันศุกร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ลิสต์รายชื่อที่พัก โรงแรม รีสอร์ทในเขตนครหลวงเวียงจันทน์และแขวงเวียงจันทน์(Hotel Directory in Vientiane Capital and Vientiane Province)

สวัสดีครับ วันนี้เอาลิสต์รายชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทร อีเมล์ติดต่อของที่พัก โรงแรม รีสอร์ทในเขตนครหลวงเวียงจันทน์และแขวงเวียงจันทน์มาฝากกันครับ สำหรับนักท่องเที่ยว ผู้ชม ผู้เชียร์กีฬา หรือใครที่สนใจจะไปเที่ยวหรือไปชม ไปเชียร์กีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 25(เวียงจันทน์เกมส์ 2009) นี้ มีที่ไหนบ้าง ตามรายการนี้เลยครับ


ที่พัก โรงแรม รีสอร์ทในเขตนครหลวงเวียงจันทน์(Hotel Directory in Vientiane Capital)


ที่พัก โรงแรม รีสอร์ทในแขวงเวียงจันทน์(Hotel Directory in Vientiane Province)

ที่มาจาก http://www.laoseagames2009.com/v1/hotelxdirectory.asp

วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ตารางสถานที่และสนามที่ใช้ในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 25(เวียงจันทน์เกมส์ 2009)

สวัสดีครับวันนี้เอา ตารางสถานที่และสนามที่ใช้ในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 25(เวียงจันทน์เกมส์ 2009) มาฝากกันครับ เผื่อว่ามีใครที่สนใจหรือจะชม จะเชียร์กีฬาประเภทอะไร ชนิดไหน ทำการแข่งขันกันที่ไหน สนามกีฬาใด จะได้เตรียมตัวการเดินทางถูกครับ ตามนี้เลย

ตารางสถานที่และสนามที่ใช้ในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 25 (Competition Venues tables)

แผนที่ สถานที่และสนามที่ใช้ในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 25 ในนครเวียงจันทน์ (Competition Venues in Vientiane Capital - Full Map size 5119x6117 pixels)


แผ่นที่สนามกีฬาเนชั่นแนลสปอร์ตคอมเพล๊กซ์ (National Sport Complex - Layout size 3097x1865 pixels)


แผ่นที่สนามกีฬาเนชั่นแนลยูนิเวอร์ซิตี้สเตเดี้ยม (National University Stadium - Layout size 1861x3066 pixels)


ที่มา http://laosoc.com/

วันพุธที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

เมืองวังเวียง - กุ้ยหลินเมืองลาว แหล่งสถานที่ท่องเที่ยวประเทศลาว สำหรับนักท่องเที่ยว นักกีฬา ที่มาแข่งขันซีเกมส์ครั้งที่ 25 (ตอนจบ)

จากที่วันก่อนได้แนะนำ "วัดหอพระแก้ว หอวัดพระแก้ว หอพระแก้ว" ไว้ในบทความ วัดหอพระแก้ว หอวัดพระแก้ว หอพระแก้ว แหล่งสถานที่ท่องเที่ยวประเทศลาว สำหรับนักท่องเที่ยว นักกีฬา ที่มาแข่งขันซีเกมส์ครั้งที่ 25 (ตอนที่ 4) ไปแล้วนั้น


วันนี้จะ มาแนะนำแหล่งท่องเที่ยวของประเทศลาวอีกแห่ง ที่มีประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจอีกแห่ง นั่นก็คือ วังเวียง เมืองวังเวียง หรือ กุ้ยหลินเมืองลาว นั่นเอง



วังเวียง เมืองแห่งธรรมชาติ ทัศนียภาพอันงดงามตระการตาของทิวเขา ไร่นาแบบขั้นบันได และหมู่บ้านชนพื้นเมืองเผ่าต่างๆ ของลาว เช่น ลาวสูง ลาวเทิง ลาวม้ง ไทลื้อ ชมความยิ่งใหญ่ของขุนเขาที่เต็มไปด้วยป่านานาพันธุ์ที่ขึ้นตามธรรมชาติ ระหว่างทางชมผาตั้ง ซึ่งเป็นภูเขาลูกเดียวที่ตั้งอยู่โดดเดี่ยว ด้านหน้าของภูเขามีน้ำซองไหลผ่าน ภูเขารูปร่างแปลกตา สลับซับซ้อนสวยงามยิ่ง นักท่องเที่ยวต่างขนานนามว่า “กุ้ยหลินเมืองลาว”

ตำแหน่งที่ตั้ง ตัวเมืองวังเวียง ตั้งอยู่ริมแม่น้ำซอง ห่างจากเมืองหลวงกรุงเวียงจันทน์ 154 กิโลเมตร และห่างจากเมืองหลวงพระบาง 210 กิโลเมตร ล้อมรอบด้วยเทือกเขาสูง มองเห็นสายน้ำกว้างสลับเนินทราย โดยมีเทือกเขาหินปูนเป็นฉากหลัง และได้ฉายาว่า กุ้ยหลินแห่งเมืองลาว เป็นแหล่งท่องเที่ยงของประเทศลาว ท่านสามารถเพลิดเพลินกับธรรมชาติระหว่างทาง



นอกจากนั้นยังมีแหล่งท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอีกมากมาย เช่น
- เขื่อนน้ำงึม - แดนสวรรค์เมืองลาว

โดย เขื่อนน้ำงึม ตั้งอยู่ห่างจากนครเวียงจันทน์ ระยะทางประมาณ 90 กิโลเมตร สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2515 มีลักษณะเป็นทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่ กักเก็บน้ำในลำน้ำงึมเอาไว้ เขื่อนน้ำงึมแห่งนี้สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ในปริมาณที่มากพอสำหรับใช้ในนครเวียงจันทน์ และยังมีเหลือพอส่งออกมาขายทางฝั่งไทย การสร้างเขื่อนน้ำงึมต้องเสียพื้นที่ป่าไปประมาณ 250 ตารางกิโลเมตร ภายในเขื่อนน้ำงึมมีเกาะเล็กเกาะน้อยกระจัดกระจายอยู่หลายร้อยเกาะ เหมือนอ่างเก็บน้ำทั่วๆ ไป และที่ท่าเรือบ้านนาคะนูนจะมีเรือของชาวบ้านให้เช่าออกไปเที่ยวตามเกาะแก่งต่างๆ ในอ่างเก็บน้ำพุร้อนชื่นชมธรรมชาติอันงดงามภายในอ่างเก็บน้ำ บริเวณท่าเรือมีร้านจำหน่ายอาหารที่นำปลาสดๆ ที่จับได้ในอ่างเก็บน้ำมาปรุงเป็นอาหาร ทั้งปลาเผา ลาบปลา และต้มปลา ให้บริการแก่นักท่องเที่ยวในราคาที่ย่อมเยา

- หลวงพระบาง สบายดีหลวงพระบาง เมืองมรดกโลก
- พระธาตุพูสี - พระราชวังหลวง
- วัดเชียงทอง - สุดยอดสถาปัตยกรรม
- วัดวิชุนราช - บ้านผานม
- น้ำตกตาดกวางสี - ถ้ำติ่ง
- น้ำตกคอนพะเพ็ง - แก่งหลี่ผี
- ปราสาทหินวัดพู - สถาปัตยกรรมขอมโบราณ
- น้ำตกตาดผาส้วม
- น้ำตกตาดเยือง
- น้ำตกตาดฟาน
เป็นต้น

แหล่งที่มาข้อมูล http://www.oceansmile.com/Lao/Wangweang.htm

วันอังคารที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

วัดหอพระแก้ว หอวัดพระแก้ว หอพระแก้ว แหล่งสถานที่ท่องเที่ยวประเทศลาว สำหรับนักท่องเที่ยว นักกีฬา ที่มาแข่งขันซีเกมส์ครั้งที่ 25 (ตอนที่ 4)

จากที่วันก่อนได้แนะนำ "วัดสีสะเกด(Wat Sisaket)" หรือ "วัดสะตะสะหัสสาราม(วัดแสน)" ไว้ในบทความ วัดสีสะเกด(Wat Sisaket) หรือวัดสะตะสะหัสสาราม แหล่งสถานที่ท่องเที่ยวประเทศลาว สำหรับนักท่องเที่ยว นักกีฬา ที่มาแข่งขันซีเกมส์ครั้งที่ 25 (ตอนที่ 3) ไปแล้วนั้น

วันนี้จะมาแนะนำแหล่งท่องเที่ยวของประเทศลาวอีกแห่ง ที่มีประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจอีกแห่ง นั่นก็คือ วัดหอพระแก้ว หอวัดพระแก้ว หอพระแก้ว(Wat Hor Phakeo)

หอพระแก้ว

ประวัติ ความเป็นมาวัดหอพระแก้ว หอวัดพระแก้ว หอพระแก้ว
หอพระแก้ว เป็นโบราณสถานคู่ประเทศลาว ซึ่งสถานที่นี้เคยประดิษฐาน พระแก้วมรกต หรือ พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ตั้งอยู่ที่นครหลวงเวียงจันทน์ ประเทศลาว ปัจจุบันเหลือเพียงพระแท่นที่ประดิษฐาน เพราะพระแก้วมรกตองค์ปัจจุบันได้รับการอัญเชิญลงมาประทับที่กรุงเทพมหานคร ในสมัยของสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี โดยสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก เป็นผู้อัญเชิญ

พระพุทธรูปศิลปะล้านช้าง บริเวณระเบียงหอพระแก้ว

แต่เดิมหอพระแก้วนั้นเคยเป็นวัดหลวงประจำราชวงศ์ของลาว พระเจ้าไชยเชษฐาธิราช ทรงมีพระราชประสงค์ให้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2108 เพื่อใช้เป็นที่ประดิษฐานพระแก้วมรกตที่ได้อัญเชิญมาจากนครเชียงใหม่ อาณาจักรล้านนา เมื่อต้องเสด็จกลับมาครองราชบัลลังก์ล้านช้างหลังจากที่พระราชบิดาคือพระเจ้าโพธิสารสิ้นพระชนม์ลงในการทำศึกสงครามกับประเทศสยาม เมื่อปี พ.ศ. 2322 นครเวียงจันทน์ถูกกองทัพสยามตีแตก กองทัพสยามได้อัญเชิญพระแก้วมรกต พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของนครเวียงจันทน์ไป พร้อมทั้งกวาดต้อนราชวงศ์ชาวลาวกลับไปยังกรุงเทพฯมากมาย

นาคประดับบันไดหอพระ

สำหรับหอพระแก้วที่นักท่องเที่ยวเห็นอยู่ในปัจจุบันเป็นของที่ถูกบูรณะขึ้นใหม่เกือบทั้งหมด ในปี พ.ศ. 2480 - 2483 ภายใต้การควบคุมดูแลการก่อสร้างของ เจ้าสุวรรณภูมา ผู้ที่จบการศึกษาทางด้านวิศวกรรมศาสตร์จากกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส และต่อมายังได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหลังจากได้รับเอกราชอีกด้วย แม้หอพระแก้วปัจจุบันจะไม่ใช่วัดอีกต่อไป แต่นักท่องเที่ยวชาวไทยที่เดินทางมาท่องเที่ยวยังนครเวียงจันทน์ก็ยังเดิน ทางมาสักการะบูชากันเป็นจำนวนมาก สำหรับส่วนในของพิพิธภัณฑ์นั้น จัดแสดง พระแท่นบัลลังก์ปิดทองจารึกพระไตรปิฏก ภาษาขอมและกลองสำริดประจำราชวงศ์ลาว สำหรับประตูใหญ่ทั้งสองเป็นของเก่าที่หลงเหลือมาแต่เดิม บานประตูจำหลักเป็นรูปองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า บริเวณโดยรอบของหอพระแก้วเงียบสงบ ร่มเย็นมีไหขนาดกลางจากทุ่งไหหิน ในแขวงเชียงขวางวางตั้งอยู่ 1 ใบ อาณาบริเวณรอบๆ วัดสีสะเกดและหอพระแก้วเคยถูกใช้เป็นศูนย์กลางของหน่วยงานปกครองของฝรั่งเศสสมัยอาณานิคมมาก่อน

จุดที่น่าสนใจ ชมวิหารหลวงเก่า ที่เคยประดิษฐานพระแก้วมรกต และพิพิธภัณฑ์ภายในหอพระแก้ว

ที่มาแหล่งข้อมูล http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AB%E0%B8%AD%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B9%89%E0%B8%A7

วันอาทิตย์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

วัดสีสะเกด(Wat Sisaket) หรือวัดสะตะสะหัสสาราม แหล่งสถานที่ท่องเที่ยวประเทศลาว สำหรับนักท่องเที่ยว นักกีฬา ที่มาแข่งขันซีเกมส์ครั้งที่ 25 (ตอนที่ 3)

จากที่เมื่อวานได้แนะนำ "ปะตูไซ(Patuxai) หรือ ประตูชัย" ไว้ในบทความ ปะตูไซ(Patuxai) หรือ ประตูชัย แหล่งสถานที่ท่องเที่ยวประเทศลาว สำหรับนักท่องเที่ยว นักกีฬา ที่มาแข่งขันซีเกมส์ครั้งที่ 25 (ตอนที่ 2) ไปแล้วนั้น

วันนี้จะมาแนะนำแหล่งท่องเที่ยวของประเทศลาวอีกแห่ง ที่คนนิยมไปไม่แพ้ที่อื่นๆ นั่นก็คือ วัดสีสะเกด(Wat Sisaket) หรือวัดสะตะสะหัสสาราม(วัดแสน)

ประวัติ ความเป็นมาวัดสีสะเกด(โดยย่อ)

วัดสีสะเกด (Wat Sisaket) หรือวัดสะตะสะหัสสาราม (วัดแสน) เป็นวัดที่สร้างขึ้นแห่งแรกในนครเวียงจันทน์ สตสหัสส แปลว่า 100,000, อาราม แปลว่า วัด, วัดสตสหัสสาราม จึงแปลว่า วัดแสน ในอดีตเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราช (ลาว) ศักดิ์ของวัดนี้เทียบเท่าวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์ ท่าเตียน ของไทย)

เหตุที่ชื่อวัดแสนก็เพราะว่า พระเจ้าไชยเชษฐาธิราชและพุทธศาสนิกชนชาวลาวในอดีต ทรงสร้างพระพุทธรูปทั้งองค์เล็กและองค์ใหญ่ประดิษฐานไว้ทั่ววัด 100,000 องค์ ดังนั้นจึงมีชื่อเล่นว่าวัดแสน แต่ปัจจุบันมีเหลืออยู่ประมาณ 10,000 กว่าองค์เท่านั้น ไกด์บางคนบอกว่ามี 6,000 กว่าองค์ แต่ถึงอย่างไรก็ตาม วัดนี้ก็มียังมีพระพุทธรูปมากที่สุดในนครเวียงจันทน์

ตำแหน่งที่ตั้งของวัดสีสะเกด หรือ วัดสะตะสะหัดสาราม
วัดสีสะเกด หรือ วัดสะตะสะหัดสาราม ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางตัวเมืองนครหลวงเวียงจันทน์ ติดกับหอคำ พระราชวังหลวงของกษัตริย์ลาวสมัยก่อนสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2094 โดยพระเจ้าโพธิสารราช พระบิดาของพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช ในศตวรรษที่ 16
ในระยะที่ 2 วัดสิสะเกด สร้างขึ้นในวัดพฤหัสบดี ขึ้น 9 ค่ำ เดือน 3 ปีขาน พ.ศ. 2361 โดย เจ้าอนุวงศ์กษัตริย์องค์สุดท้ายแห่งราชวงศ์ล้านช้างเวียงจันทน์ ถือว่าเป็นวัดที่สำคัญแห่งหนึ่ง ในนครหลวงเวียงจันทน์ ซึ่งอยู่ในระหว่างศึกสงครามหลายยุคหลายสมัย และเป็นวัดเดียว ที่ไม่เคยถูกทำลายเหมือนวัดอื่น ๆในเวียงจันทน์ หลังจากสร้างเสร็จในปี พ.ศ. 2367 พระเจ้าอนุวงศ์ก็ได้นำพาประชาชนลาวบำเพ็ญบุญกุศุลเฉลิมฉลองเป็นเวลา 9 วัน 9 คืน สิ่งที่ได้ก่อสร้างพร้อมกันนี้มี

หอพระไตรปิฎก
ภายในบริเวณหอพิพิธภัณฑ์มีกมเลียนล้อมรอบทั้ง 4 ด้าน แต่ละด้านมีพระพุทธรูปองค์เล็ก ๆ อยู่ตามฝาผนังที่ทำด้วยดินเผา ไม้ และอื่น ๆรวมทั้งหมดมี 6,840 องค์ ส่วนอยู่ด้านบนทำด้วยประทายเพชร มีจำนวน 120 องค์ แม่พิมพ์เดียวกัน พระพุทธรูป รวมทั้งหมด ทั้งองค์ใหญ่และเล็กรวมทั้งสิ้น 10,136 องค์ ซึ่งประชาชน ได้พร้อมใจ กันหล่อนำมาถวาย พระพุทธรูปจำนวนมากมายเหล่านี้หมายถึงศิษยานุศิษย์สาวกของพระพุทธเจ้า ตามพุทธประวัติได้กล่าวไว้ว่า เวลาพระองค์เสด็จไปแห่งหนใดสาวก และบริวาร ต้องติดตาม เพื่อรับฟังคำโอวาทพระธรรมคำสั่งสอนของพระองค์มิได้ขาด

พระประธานในสิม
เดิมเป็นพระพุทธรูปองค์เล็กทำด้วยทองสำริด แต่เจ้าอนุวงศ์ได้ปฏิสังขรณ์ก่อครอบ ด้วยประทานเพชรฟอกด้วยน้ำปิว และให้พระประธานองค์ใหญ่หันหน้าไปทางด้านเหนือ เพื่อความ สะดวกสบายในไปกราบไหว้สักการะบูชา

ราวเทียนในสิม
ราวเทียนในสิม มีความสูงประมาณ 1.88 เมตร กว้าง 2.10 เมตร ซึ่งเป็นศิลปผสมระหว่างล้านช้างกับล้านนา ทำด้วยไม้เนื้อดีและแกะสลักเป็นรูปพญานาค สองตนเอาหางพันกัน เป็นรูปสวยงามซึ่งหมายถึง ความสามัคคี
ระหว่างล้านช้างและล้านนา ที่พิเศษคือฟอกด้วยน้ำทองคำปิว สร้างในสมัยเดียวกันกับ วัดสิสะเกด
ศตวรรษที่ 19

หอพระไตรปิฎก
สำหรับเก็บรักษาพระไตรปิฎก และตำราคัมภีร์ เอการทางพระพุทธศาสนา ถึงแม้วัดสีสะเกดจะไม่ถูกเผาทำลายเหมือนวัดอื่น ๆ แต่ก็ถูกปล้นสะดมจี้เอาพระไตรปิฎกไปจนหมดเกลี้ยง ปัจจุบันมีเพียงหอพระไตรที่แสดงไว้ให้แขกต่างด้าวท้าวต่างเมืองมาเที่ยวชม ส่วนของหลังคาหอพระไตรปิฎกจะมีความคล้ายคลึงศิลปะของพม่าเพราะในสมัยนั้น อาจได้รับอิทธิพลจากพม่า นอกจากนี้ยังมีแผ่นศิลาจารึก ซึ่งกล่าวถึงเรื่องราวประวัติของวัดสีสะเกดอีกด้วย ในสมัยก่อนวัดสิสะเกดมีอาณาเขตกว้างขวางมากมีกำแพงล้อมรอบทั้งสี่ด้าน ต่อมาในปี ค.ศ.1963 ได้ตัดเส้นทางใหม่ คือถนนเชษฐาธิราช ส่วนประตูโขงด้านหน้าติดกับหอคำ หรือสำนักงานประธานประเทศในปัจจุบัน

ที่มาข้อมูล - http://www.intaram.org/index.php?lay=show&ac=article&Id=538744979&Ntype=16
- http://www.laos-discovery.com/sisaket.html

วันเสาร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ปะตูไซ(Patuxai) หรือ ประตูชัย แหล่งสถานที่ท่องเที่ยวประเทศลาว สำหรับนักท่องเที่ยว นักกีฬา ที่มาแข่งขันซีเกมส์ครั้งที่ 25 (ตอนที่ 2)

จากที่เมื่อวานได้แนะนำ "พระธาตุหลวง" ไว้ในบทความ ข้อมูลแหล่งสถานที่ท่องเที่ยวประเทศลาว สำหรับนักท่องเที่ยว นักกีฬา ที่มาแข่งขันซีเกมส์ครั้งที่ 25 (ตอนที่ 1) ไปแล้วนั้น

วันนี้จะมาแนะนำแหล่งท่องเที่ยวของประเทศลาวอีกแห่ง ที่คนนิยมไปไม่แพ้ที่อื่นๆ นั่นก็คือ ปะตูไซ(Patuxai) หรือ ประตูชัย

ปะตูไซ(Patuxai) หรือ ประตูชัย เป็นอนุสรณ์สถานเพื่อระลึกถึงประชาชนชาวลาวผู้เสียสละชีวิต ในสงครามก่อนหน้าการปฏิวัติของพรรคคอมมิวนิสต์


ประวัติ ความเป็นมาและตำแหน่งที่ตั้งของประตูชัย
ประตูชัย ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองเวียงจันทน์บนถนนล้านช้างไปสิ้นสุดที่บริเวณประตูชัย สร้างเสร็จในปี พ.ศ. 2512 เป็นอนุสรณ์สถานเพื่อระลึกถึงประชาชนชาวลาวผู้เสียสละชีวิตในสงครามก่อนหน้าการปฏิวัติของพรรคคอมมิวนิสต์ ประตูชัยแห่งนี้มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า รันเวย์แนวตั้ง เพราะการก่อสร้างประตูชัยแห่งนี้ ใช้ปูนที่อเมริกาซื้อเพื่อนำมาสร้างสนามบินใหม่ในนครเวียงจันทน์ในระหว่าง สงครามอินโดจีน แต่ไม่ทันได้สร้างเพราะอเมริกาแพ้สงครามในอินโดจีนเสียก่อน จึงนำปูนซีเมนต์มาสร้างประตูชัยแทน ลักษณะสถาปัตยกรรมได้รับอิทธิพลของประตูชัยในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เจ้าอาณานิคมในสมัยนั้น แต่ลักษณะสถาปัตยกรรมก็ยังมีเอกลักษณ์ของลาวปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นพระพุทธรูปศิลปะลาว


ภาพเรื่องราวมหากาพย์รามายณะ แบบปูนปั้นใต้ซุ้มประตูโค้งของประตูชัย บันไดวันให้ขึ้นไปชมทิวทัศน์ของนครเวียงจันทน์ บนยอดของประตูชัยอีกด้วย

ตลอดบันไดวนของประตูชัยจะแบ่งออกเป็นชั้นๆ ซึ่งแต่ละชั้นจะมีร้านจำหน่ายของที่ระลึก เปิดให้นักท่องเที่ยวได้ขึ้นชมวิวทิวทัศน์ทุกวัน และในตอนเย็นจะมีประชาชนชาวลาว มาออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมร่วมกันที่นี่ด้วย

ค่าเข้าชม ผ่านประตูคนละ 2,000 กีบ (อัตราแลกเปลี่ยนก็ประมาณ 240-270 กีบ ต่อ 1 บาท)
เวลาเปิดให้เข้าชม ตั้งแต่เวลา 08.00 – 17.00 น.

ข้อมูลจาก - http://www.oceansmile.com/Lao/Phatadlaung.htm

วันศุกร์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

พระธาตุหลวง แหล่งสถานที่ท่องเที่ยวประเทศลาว สำหรับนักท่องเที่ยว นักกีฬา ที่มาแข่งขันซีเกมส์ครั้งที่ 25 (ตอนที่ 1)

แนะนำข้อมูลแหล่งท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศลาว สำหรับนักท่องเที่ยว นักกีฬา โค้ช ผู้ฝึกสอน หรือบุคคลทั่วไป ที่มาแข่งขันหรือชมการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 25 ซึ่งวันนี้ขอแนะนำ "พระธาตุหลวง"

พระธาตุหลวง หรือ พระเจดีย์โลกะจุฬามณี นับเป็นปูชนียสถานอันสำคัญยิ่งแห่งนครหลวงเวียงจันทน์ และเป็นศูนย์รวมใจของประชาชนชาวลาวทั่วประเทศ ตามตำนานกล่าวว่าพระธาตุหลวงมีประวัติการก่อสร้างนับพันปีเช่นเดียวกันพระธาตุพนมในประเทศไทย และปรากฏความเกี่ยวพันกับประวัติศาสตร์ของดินแดนทางฝั่งขวาแม่น้ำโขงอย่าง แยกไม่ออก สถานที่นี้ถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์สำคัญอย่างของประเทศลาว ดังปรากฏว่าตราแผ่นดินของลาวที่ใช้อยู่ในปัจจุบันนี้มีรูปพระธาตุหลวงเป็น ภาพประธานในดวงตรา

ประวัติ ความเป็นมาและตำนานการสร้างพระธาตุหลวง
ตามตำนานเล่าว่า พระธาตุองค์นี้ได้สร้างในสมัยพุทธศักราชที่ 236 โดยมีพระภิกษุลาวจำนวน 5 รูปเดินทางไปศึกษาพระพุทธศาสนาในประเทศอินเดีย และได้อันเชิญพระอุรังคธาตุของพระพุทธเจ้ามายังนครเวียงจันทน์ด้วย ต่อมาด้ำกราบทูลพระยาจันทบุรีประสิทธิ์ศักดิ์ เจ้านครเวียงจันทน์ในสมัยนั้น ให้สร้างพระธาตุหลวงขึ้นเพื่อเป็นที่ประดิษฐานพระบรมธาตุเพื่อให้ชาวลาวได้ กราบไหว้ กล่าวไว้ว่า พระธาตุองค์เดิมนั้นสร้างด้วยหินเป็นทรงโอคว่ำ มีการก่อกำแพงล้อมรอบเอาไว้ทั้ง 4 ด้าน แต่ละด้านมีความกว้าง 10 เมตร หนา 4 เมตร และสูง 9 เมตร เชื่อกันว่าพระธาตุที่เห็นในปัจจุบันสร้างครอบองค์เดิม ซึ่งต่อมาสมเด็จพระไชยเชษฐาธิราชได้โปรดเกล้าฯ ให้ย้ายเมืองหลวงของราชอาณาจักรล้านช้างจากหลวงพระบางมาอยู่ที่เวียงจันทน์ ตามดำริของพระราชบิดา คือพระเจ้าโพธิสาร จากนั้นทรงมีพระบัญชา ให้ทรงสร้างพระเจดีย์องค์ใหม่ครอบพระธาตุองค์เดิมไว้ ณ บริเวณที่เคยเป็นเทวสถานเก่าของขอมโดยเริ่มก่อสร้างในปี พ.ศ.2109 และหลังจากสร้างพระธาตุหลวงได้โปรดฯ ให้สร้างวัดขึ้นล้อมรอบพระธาตุไว้ทั้งสี่ทิศด้วย แต่ปัจจุบันเหลืออยู่เพียงสองแห่งด้วยกันคือ วัดพระธาตุหลวงเหนือและวัดพระธาตุหลวงใต้


ในปัจจุบันพระธาตุหลวงมีลักษณะคล้ายป้อมปราการ เพราะมีการสร้างระเบียงสูงใหญ่ขึ้นโอบล้อมรอบองค์พระธาตุไว้ พร้อมกับทำช่องหน้าต่างเล็กๆเอาไว้โดยตลอด สำหรับประตูทางเข้านั้นเป็นประตูไม้บานใหญ่ ลงรักสีแดงไว้ทั้งหมด นอกจากนี้รอบๆองค์พระธาตุใหญ่ยังมีเจดีย์บริวารล้อมรอบอยู่โดยรอบอีหลายองค์ เมื่อเดินเข้าไปดูใกล้ๆ ก็จะเห็นสัญลักษณ์หนึ่งแสดงถึงความศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธศาสนาแห่งนี้ปรากฏอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นรูปแกะสลักพญานาค พระพุทธรูปปิดทองลายกลีบบัวประดับอยู่บนฐานปักษ์ และถัดจากประตูทางเข้าใหญ่ประมาณ 100 เมตรจะแลเห็นพระบรมรูปสมเด็จพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช ตั้งอยู่บนฐานสูง พระหัตถ์ทรงถือพระแสงดาบวางพาดไว้บนพระเพลา เล่ากันว่า พระแสงดาบเล่มนี้ทำหน้าที่ปกป้องพระธาตุหลวงซึ่งได้ถือว่าเป็นศูนย์รวมจิตใจของประชาชนชาวลาวทุกคน

ตำแหน่งที่ตั้งพระธาตุหลวง
พระธาตุหลวง ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของประตูชัย (อยู่ใจกลางเมืองหลวงประเทศลาว) พระธาตุหลวงแห่งนี้ถือเป็นศาสนสถานที่สำคัญที่สุดของประเทศลาว เป็นสัญญาลักษณ์ประจำชาติและยังแทนความเป็นเอกราชและอำนาจอธิปไตยของประเทศลาวอีกด้วย พระธาตุนี้สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 16 พระธาตุองค์นี้มีรูปทรงที่ไม่เหมือนกับองค์อื่นๆ เพราะเป็นการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมในพระพุทธศาสนากับสถาปัตยกรรมของอาณาจักร

ค่าเข้าชม คนละ 5,000 กีบ(อัตราแลกเปลี่ยนก็ประมาณ 240-270 กีบ ต่อ 1 บาท)
เวลาเปิดให้เข้าชม ตั้งแต่เวลา 08.00 – 17.00 น.
จุดที่น่าสนใจ สักการะพระราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระไชยเชษฐาธิราช
กิจกรรม นมัสการพระธาตุหลวง ปูชนียสถานศักดิ์สิทธิ์ คู่กับพระธาตุพนม
ข้อห้าม กรุณาแต่งกายสุภาพเนื่องจาก เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์คู่ประเทศ

ข้อมูลจาก - http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%98%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B8%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87
- http://www.oceansmile.com/Lao/Phatadlaung.htm

วันพฤหัสบดีที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ลาวโชว์ศักยภาพโรงแรมและแหล่งท่องเที่ยวต้อนรับมหกรรมกีฬาซีเกมส์

การแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ถือเป็นครั้งแรกที่ลาวได้ก้าวขึ้นมาเป็นเจ้าภาพอย่างเต็มภาคภูมิ จึงเห็นได้ว่าหลายฝ่ายทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชนต่างตื่นตัวและเตรียมต้อนรับกับมหกรรมกีฬาที่กำลังเกิดขึ้นในไม่อีกกี่วันข้างหน้านี้

รวมไปถึงธุรกิจด้านการท่องเที่ยวที่ดูจะตื่นตัวและเตรียมพร้อมรับมืออย่างเต็มที่ เพราะกีฬาซีเกมส์จะเป็นตัวกระตุ้นการค้าและเศรษฐกิจในประเทศได้อย่างดี เยี่ยม ด้วยเหตุนี้หลายฝ่ายจึงเตรียมโปรแกรมและแหล่งท่องเที่ยวไว้ต้อนรับนักกีฬา อย่างเต็มที่ในระหว่างการแข่งขันกีฬาซีเกมสืที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้


นายบัวขาว พมสุวรรณ ประธานสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวแห่งชาติลาว เล่าให้ฟังว่า สมาคมมีส่วนหนึ่งรับผิดชอบนักท่องเที่ยวและด้านการท่องเที่ยวของนักกีฬาและ สื่อมวลชน ซึ่งสมาคมเฉพาะในเขตนครหลวงเวียงจันทน์ มีบริษัททัวร์ที่ได้รับการจดทะเบียนอยู่ประมาณ 80 แห่ง และได้มีการเตรียมบุคลากรประมาณ 200 คน เอาไว้สำหรับในการต้อนรับและทำหน้าที่เป็นไกด์นำเที่ยว

นอกจากนี้แล้วก็ได้เตรียมนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยต่างๆ อีกหลายพันคน เพื่อทำหน้าที่ต้อนรับและให้คำแนะนำสำหรับนักกีฬา สื่อมวลชน และนักท่องเที่ยวที่คาดหมายว่าจะเดินทางเข้ามายังนครหลวงเวียงจันทน์เป็น จำนวนมาก

"สำหรับโปรแกรมและเส้นทางการท่องเที่ยวที่สำคัญๆ นอกจากที่จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวในตัวเมืองนครหลวงเวียงจันทน์แล้ว ก็ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวในแขวงเวียงจันทน์ แหล่งและเส้นทางในต่างแขวงอีกทั้งทางภาคเหนือและภาคใต้ของประเทศลาว ทั้งแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ วัฒนธรรมประเพณีเก่าแก่ที่น่าสนใจมากมาย "


นายเกียรติศักดิ์ เลิศโกมิลพัฒนา เจ้าของกิจการโรงแรมอนุพาราไดซ์โฮเต็ล นครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว(สปป.ลาว) บอกว่า ขณะนี้ได้ใช้งบประมาณราว 50 ล้านบาท ในการปรับปรุงห้องพักที่มีอยู่จำนวน 50 ห้องใหม่ ให้มีความทันสมัยขึ้น และรวมไปถึงไนต์คลับที่เป็นหนึ่งในสามแห่งของนครหลวงเวียงจันทน์ รวมถึงห้องอาหารของโรงแรมอีกด้วย

ทั้งนี้โรงแรมอนุพาราไดซ์โฮเต็ล เป็นของโรงแรมที่เก่าแก่ของนครเวียงจันทน์ ตั้งอยู่ในถนนย่านที่เป็นศูนย์กลางธุรกิจของนครหลวงเวียงจันทน์ ซึ่งในปัจจุบันนี้มีการเปรียบเทียบกันว่า เป็นย่านเซ็นเตอร์พอยต์ของนครหลวงเวียงจันทน์ ซึ่งในย่านนี้จะมีหน่วยงานและธุรกิจตั้งอยู่ เช่น อาคารศูนย์วัฒนธรรมแห่งชาติ ธนาคารเพื่อการพัฒนา ร้านค้า ร้านอาหาร ซึ่งขณะนี้ทางโรงแรมได้มีคำสั่งจองห้องพักจากสำนักข่าวแห่งหนึ่ง ในประเทศไทยกว่า 30 ห้องในช่วงการแข่งขันกีฬาซีเกมส์

สิ่งที่เหลือนับจากนี้ ก็คือ การนับถอยหลังถึงพิธีเปิดการแข่งกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 25 ที่นครหลวงเวียงจันทน์ปลายปีนี้ ต้องจับตาดูว่า จะสร้างความคึกคักทางเศรษฐกิจให้กับสปป.ลาวประเทศเจ้าภาพ และไทยในฐานะประเทศเพื่อนบ้านได้มากน้อยเพียงใด

ที่มาข่าว http://www.thairath.co.th/content/sport/47620

วันพุธที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

แกรนด์สปอร์ต เปิดตัวชุดนักกีฬาทีมชาติไทย ลุยศึกซีเกมส์ ครั้งที่ 25 ที่ประเทศลาว

แกรนด์สปอร์ต เปิดตัว ชุดนักกีฬาทีมชาติไทย ลุยศึกซีเกมส์ ครั้งที่ 25 ที่ ลาว สุดหวือหวา บรรดาขุนศึกทีมชาติสวมชุดแข่งขัน เดินแบบอย่างสวยงาม ธิติ พฤกษ์ชะอุ่ม ผู้อำนวยการฝ่ายทั่วไป แจงแนวความคิด "สายสัมพันธ์สองฝั่งโขง" ลวดลายเส้น การตัดเย็บเส้นสาย อันเป็นตัวแทนของสายน้ำโขง ที่เชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างสองฟากฝั่งไทย-ลาว พร้อมลั่นชี้ ใครลอกเลียนแบบ โดนจับติดคุกแน่


พล.ต.จารึก อารีราชการัณย์ เลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ พร้อมด้วย นายธิติ พฤกษ์ชะอุ่ม ผู้อำนวยการฝ่ายทั่วไป บริษัท แกรนด์สปอร์ต กรุ๊ป และแขกผู้มีเกียรติในวงการกีฬาไทย ร่วมงานเปิดตัว "ชุดทีมชาติไทยในซีเกมส์ พร้อมคอลเลกชั่นกีฬาปี 2010" บริเวณหน้าห้อง เอ็มซีซีฮอลล์ เดอะมอลล์ บางกะปิ เมื่อวันที่ 17 พ.ย.ที่ผ่านมา

โดยภายในงานเปิดตัวทางแกรนด์สปอร์ตฯ ได้นำเอานักกีฬาทีมชาติไทย มาเป็นนายแบบ นางแบบสวมใส่ชุดกีฬาทีมชาติที่จะใช้ลงแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 25 ที่ประเทศ ลาว ระหว่างวันที่ 9-18 ธ.ค.52 ซึ่ง สมปอง สอเหลบ มาในชุดแข่งขันฟุตบอล สีเหลือง พร้อมด้วย กวิน ธรรมสัจจานันท์ ผู้รักษาประตูทีมชาติ มาในชุดซ้อม, อรอุมา สิทธิรักษ์ นักวอลเลย์บอลทีมชาติชุดแชมป์เอเชีย มาในชุดฝึกซ้อมสีน้ำเงิน และกมลทิพย์ กุลนา และยุพา ภูครองพลอย มาในชุดวอลเลย์บอลชายหาด ที่หวือหวาสร้างสีสันในงานอย่างยิ่ง









นายธิติ กล่าวเปิดเผยว่า ตน ในฐานะที่ดูแลคอนเซปต์ชุดนักกีฬาในซีเกมส์ครั้งที่ 25 ที่ประเทศ ลาว ทาง แกรนด์สปอร์ต กรุ๊ป จึงได้เตรียมการออกแบบเสื้อผ้าชุดแข่งขันขึ้นเป็นกรณีพิเศษ ภายใต้แนวความคิด "สายสัมพันธ์สองฝั่งโขง" ซึ่งเราได้แรงบัลดาลใจมาจากแม่น้ำโขงที่เชื่อมประเทศต่างๆ ในแถบนี้ไว้ด้วยกัน

เพราะฉะนั้นการใช้ลวดลายเส้นการตัดเย็บที่มีเส้นสายอันเป็นตัวแทน ของสายน้ำโขงที่เชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างสองฟากฝั่ง ไทย - ลาว และในลวดลายของเนื้อผ้ายังมีลักษณะของลายไทยแทรกอยู่ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเป็นชุดที่เป็นเอกลักษณ์ของทีมชาติไทย และตนอยากบอกผู้ที่ลอกเลียนแบบสินค้าของ แกรนด์สปอร์ต ใครผลิตออกมาจะถูกจับกุมดำเนินคดีทันที

ด้าน พล.ต.จารึก กล่าวภายหลังชมการเดินแบบชุดกีฬาของนักกีฬาว่า เสื้อผ้าชุดนี้ ได้คัดเลือกและจัดสรรมาจากช่างฝีมือดีของ แกรนด์สปอร์ตฯ ซึ่งชุดแกรนด์สปอร์ต ต่างชาติเห็นก็อยากได้ มักจะขอแลกกับนักกีฬาไทยเสมอ ส่วนตัวแล้วมองว่า ใส่ชุดที่ดี ของแกรนด์สปอร์ต ถือว่าชนะไปแล้วกว่าครึ่ง เพราะชุดกีฬาที่ใช้สวมใส่เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้นักกีฬาเกิดความมั่นใจ ซึ่งทุกๆ ปีนักกีฬาไทยจะได้รับเครื่องแต่งกายใหม่และทันสมัย

สำหรับผู้สนใจท่านใดที่ต้องการใส่ชุดที่เหมือนนักกีฬา เพื่อไปเชียร์ และซื้อไว้เป็นที่ระลึก สามารถติดต่อได้ที่ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศ หรือผู้จำหน่ายสินค้าแกรนด์สปอร์ต และร้านแกรนด์สปอร์ต ช็อป โทร. 0-2318-3000 ต่อ 181-183

ที่มาข่าว http://www.siamsport.co.th/Sport_Other/091117_165.html

วันอังคารที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

รูปตัวอย่างเหรียญรางวัล(เหรียญทอง เหรียญเงิน และเหรียญทองแดง) ในซีเกมส์ ครั้งที่ 25 หรือเวียงจันทน์เกมส์ 2009

สำหรับการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 25 ที่นครเวียงจันทน์ ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ในระหว่างวันที่ 9-18 ธันวาคม 2552 ใกล้เข้ามาทุกขณะแล้ว วันนี้เลยขอนำเอาตัวอย่างเหรียญรางวัล ทั้งเหรียญทอง เหรียญเงิน และเหรียญทองแดง ที่ใช้เป็นเหรียญรางวัล ในมหกรรมกีฬาแห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มาให้ยลกัน

โดยเหรียญรางวัลมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 70 มิลลิเมตร ด้านหน้ามีโลโก้การแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 25 "พระธาตุหลวง" ซึ่งเป็นสัญลักษณ์และหัวใจสำคัญของชาติ ด้านบนปรากฏคำว่า "50th Anniversary" ขณะที่ด้านล่างของเหรียญจะมีคำว่า "25th SEA Games, Laos" ส่วนด้านหลังของเหรียญรางวัลจะมี ช้างพลาย "จำปา" และ ช้างพัง "จำปี" สัตว์นำโชคเด่นเป็นตระหง่าน ดังรูปตัวอย่าง ต่อไปนี้

ด้านหน้าเหรียญทอง

ด้านหลังเหรียญทอง


เหรียญทอง


เหรียญเงิน


เหรียญทองแดง

หมายเหตุ : "ดวงจำปา" (ดอกลีลาวดี) เป็นดอกไม้ประจำชาติ ขณะที่ "ช้าง" เป็นสัตว์ประจำชาติ คู่บ้าน คู่เมือง ของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว

ที่มาข้อมูล http://www.manager.co.th/Sport/ViewNews.aspx?NewsID=9520000138114

"ประเทศใดเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน ประเทศนั้นก็จะเป็นจ้าวซีเกมส์" ประโยคนี้จะใช้กับลาวในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ 2009 หรือไม่?

ครับ อย่างที่เกริ่นในหัวข้อแล้วว่า "ประเทศใดเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน ประเทศนั้นก็จะเป็นจ้าวซีเกมส์" ประโยคนี้จะสามารถใช้กับประเทศสาธารณะรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ 2009 หรือกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 25 นี้ ได้หรือไม่? ก็ต้องมาคอยดู คอยชมกันหล่ะครับ แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าหากเราย้อนไปดู การแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 24 ที่โคราช ประเทศลาวประสบความสำเร็จเกินคาด เพราะคณะนักกีฬาลาวสามารถช่วงชิงเอาเหรียญรางวัลจากการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ใน ครั้งที่ผ่านมาได้ 5 เหรียญทองกับ 7 เหรียญเงิน และ 32 เหรียญทองแดงนั้น นอกจากจะเป็นเหรียญรางวัลรวมที่เกินเป้าหมายที่วางไว้เอาไว้มากถึง 14 เหรียญแล้วยังนับเป็นจำนวนเหรียญรางวัลที่ได้มามากที่สุดในประวัติศาสตร์ของ ลาวในการเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาซีเกมส์อีกด้วย

ทั้งนี้จึงทำให้ การแข่งขันครั้งที่ 25 ที่ลาวเป็นเจ้าภาพจึงตั้งความหวังไว้สูงอย่างมากกับการเป็นเจ้าภาพครั้งแรก ถึงแม้ว่าเหรียญรางวัลรวมของคณะนักกีฬาลาวในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ใน ครั้งที่ผ่านมา จะห่างจากเหรียญรางวัลรวมของทัพนักกีฬาไทยถึง 365 เหรียญ หรือเฉพาะที่เป็นเหรียญทองก็ห่างกันถึง 178 เหรียญแล้วก็ตาม หากแต่จะต้องไม่ลืมว่าเหรียญรางวัลรวม 44 เหรียญ ของคณะนักกีฬาลาวนั้นส่วนใหญ่จะได้มาจากประเภทกีฬาที่นักกีฬาลาวมีความถนัด เป็นพิเศษและยังต้องช่วงชิงกับนักกีฬาไทยเป็นส่วนมากอีกด้วย

ยิ่งไปกว่านั้น ล่าสุด ทีมฟุตบอลชุดซีเกมส์ของลาว สามารถคว้าแชมป์ ปรีซีเกมส์ ที่เพิ่งจัดขึ้นไปครองได้ ก็เล่นเอาคนลาวตื่นตัวขึ้นมาทำทันที และฝันไกลว่าซีเกมส์ที่พวกเขาจะเป็นเจ้าภาพคงจะมีลุ้นแชมป์


นายไวเพชร สีหจักร ผู้จัดการทีมฟุตบอลชายทีมชาติลาวชุดอายุไม่เกิน 23 ปี หวังนำทีมสร้างประวัติศาสตร์ คว้าเหรียญรางวัลจากกีฬาฟุตบอลซีเกมส์เป็นครั้งแรก แม้จะพบศึกหนักด้วยการร่วมสายกับทั้ง อินโดนีเซีย ,สิงคโปร์ และเมียนมาร์ ก็ตาม แต่ผู้จัดการทีมชุดอายุไม่เกิน 23 ปี มั่นใจว่าลาวทีมนี้คือทีมที่ดีกว่าทุกๆชุดในอดีตที่ผ่านมา

ผู้จัดการทีมชาติลาว ยังมั่นใจในฝีมือของอัลเฟรด รีเดิล กุนซือมากประสบการณ์จากออสเตรีย ที่เตรียมทีมอย่างต่อเนื่องในปีที่ผ่านมาว่า "นี่คือทีมที่เล่นร่วมกันมาตลอด 11 นัดหลังสุดภายใต้การดูแลของโค้ชออสเตรียน ที่สำคัญเราเพิ่งโชว์ฟอร์มดีจากทัวนาเมนต์ 4 เส้าที่กัมพูชา ซึ่งมันคือการเพิ่มความมั่นใจให้กับพวกเราก่อนถึงซีเกมส์"


แม้จะถูกมองว่า ฝัน ก็คือฝัน เพราะมองยังไงลาวก็ยังห่างชั้นกับชาติต่างๆอยู่เยอะ แถมทีมที่ส่งไปร่วมส่วนใหญ่ก็ระดับเยาวชนทั้งนั้น แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา เพราะลาว เองจึงมีความกระตือรือร้นที่จะเป็นเจ้าภาพกีฬาใหญ่อย่างเต็มที่

เพราะการแข่งขันที่เวียงจันทน์นี้ ลาวได้ประกาศอย่างชัดเจนแล้วว่า จะกำหนดให้มีการแข่งขันกีฬาเพียง 25 ประเภทเท่านั้น ซึ่งหมายความว่าได้มีการลดประเภทกีฬาลงจากการแข่งขันซีเกมส์ครั้งที่ 24 ถึง 18 ประเภทกีฬาเลยทีเดียว (ไม่รวมกีฬาสาธิต) โดยให้เหตุผลว่าเพื่อให้สอดคล้องกับระดับความสามารถของลาวทั้งในด้านสถานที่ -อุปกรณ์-บุคลากรและทุนทรัพย์ที่มีอยู่อย่างจำกัด

ในขณะเดียวกัน ประเภทกีฬาที่ถือเป็นความถนัดหรือที่นักกีฬาลาวสามารถที่จะพัฒนาให้ทัดเทียม กับประเทศอื่นก็ยังคงรักษาไว้อย่างครบถ้วน ทั้งนี้ โดยไม่ว่าจะเป็นกีฬาเทควันโด มวยสากล มวยลาว(ไทย) ยูโด คาราเต้โด มวยปล้ำ วูซู เปตอง และเซปัคตะกร้อ ที่มาเลเซียและพม่าไม่ยอมเข้าร่วมในการแข่งขันในกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ผ่านมา นี้ก็ตาม

นอกจากนี้ก็ยังจะมีการเพิ่มเหรียญรางวัลในกีฬาแข่งเรือยาวประเพณีให้มากขึ้น ทั้งยังมีข่าวว่าทางการลาวกำลังพิจารณาจะขอเพิ่มกีฬาพื้นบ้าน เช่นการเล่นลูกข่างและหมากเก็บ รวมไปถึงกีฬาเตะลูกปีกไก่เข้าในรายการแข่งขัน

โดยจะเห็นได้จากการที่ ได้ส่งคณะนักกีฬาจำนวนมากกว่า 400 ชีวิต เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ในครั้งที่ผ่านมา ซึ่งไม่เพียงจะถือว่าเป็นการส่งนักกีฬาเข้าร่วมในการแข่งขันมากที่สุดใน ประวัติศาสตร์ของลาวเท่านั้น แต่ทางการลาวยังได้มองไปถึงการเสริมสร้างประสบการณ์ให้กับคณะนักกีฬาของตนใน อันที่จะช่วงชิงเอาเหรียญรางวัลให้ได้อย่างเป็นกอบเป็นกำในอีก 2 ปีข้างหน้าอีกด้วย


ยิ่งเมื่อประกอบกับการได้รับความช่วยเหลือจากมหาอำนาจด้านกีฬาอย่างจีนที่ได้ ประกาศอย่างชัดเจนว่าจะให้ความช่วยเหลือแก่ลาวอย่างเต็มที่ ทั้งในการดำเนินการก่อสร้างสนามกีฬาแห่งใหม่ในเขตนครเวียงจันทน์ที่จะต้อง ใช้เงินทุนไม่น้อยกว่า 80 ล้าน ดอลลาร์สหรัฐ และในด้านการพัฒนาสมรรถภาพของนักกีฬาลาวด้วยแล้ว ก็ยิ่งทำให้มีความเป็นไปได้มากขึ้นที่ลาวอาจจะได้มีโอกาสเป็นจ้าวซีเกมส์กับ เขาบ้าง

อีกหนึ่งชนิดกีฬาที่เป็นความหวังเหรียญทองของทัพนักกีฬา ลาวอยู่ไม่น้อยก็คือกีฬาประเภท ศิลปะการต่อสู้ ซึ่งจะว่าไปแล้วมาตรฐานกีฬาในด้านนี้ของลาวก็ไม่ได้น้อยหน้าประเทศใดเช่นกัน ดังจะเห็นได้จาก 2 เหรียญทองจากกีฬายูโด กับอีก 1 เหรียญทองที่ได้จากมวยลาว(ไทย) และใน 32 เหรียญทองแดงนั้นส่วนใหญ่ก็ได้มาจากกีฬาประเภทนี้ทั้งสิ้น

และที่สำคัญลาวได้รับการสนับสนุนจากเพื่อนบ้านมาร่วมไม้ร่วมมือกัน ไทยเองนอกจากงบประมาณแล้วยังจัดส่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคไปดูแลและอบรม บุคคลากรให้ ส่วนจีนจัดงบสร้างสนามกีฬาแห่งใหม่ ขณะที่เวียดนามสร้างหมู่บ้านนักกีฬา และยังมีเกาหลีเหนือที่มาสร้างงถนนเข้าสู่ตัวสนามกีฬาใหม่ด้วย


ดูแล้วซีเกมส์ที่ลาวอาจจะไม่เพอร์เฟ็กซ์มากนัก เพราะความพร้อมของประเทศ แต่เชื่อว่าคนลาวจะตื่นตัวกับเกมการแข่งขันอย่างแน่นอน โดยเฉพาะฟุตบอลที่น่าจะเป็นไฮไลท์ที่คนลาวเฝ้าติดตามมากที่สุด

ฉะนั้นถ้าหากมาตรฐานของการแข่งขันกีฬาซีเกมส์คือนิยามที่ตรงกับประโยคคำพูดที่ว่า “ประเทศใดเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน ประเทศนั้นก็จะเป็นจ้าวซีเกมส์” ก็คงจะมีความเป็นไปได้เช่นกันที่ประเทศเจ้าภาพอย่างลาวจะได้เป็นจ้าวซีเกมส์ ได้เช่นกัน

วันจันทร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ศักยภาพและความพร้อมของประเทศลาวในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬีซีเกมส์ ครั้งที่ 25 เวียงจันท์เกมส์ 2009

ก่อนที่จะถึงมหกรรมการแข่งขันซีเกมส์ครั้งที่ 25 ในระหว่างวันที่ 9-18 ธ.ค. 2009 นี้ เรามาดูความพร้อม การเตรียมงาม สถานที่ และศักยภาพของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันซีเกมส์ 2009 ในครั้งนี้กันก่อนนะครับ

หากจะนับถอยหลังมหกรรมกีฬาแห่งชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ “ซีเกมส์” ครั้งที่ 25 นั้น คงเหลือเวลาอีกประมาณ 25 วัน เท่านั้น ที่กีฬาของชาวเอเชียจะเปิดฉากขึ้นอย่างเป็นทางการที่นครเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ( สปป. ลาว )

สนามกีฬาสปอร์ตคอมเพล็กซ์

สำหรับการเตรียมความพร้อมของลาวในการเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ ครั้งที่ 25 นั้น เรื่องนี้ คงไม่ต้องบรรยายอะไรกันให้มากนัก เพราะดูจากความตั้งใจสูง ที่ลาวเร่งการดำเนินงานอย่างเต็มที่ เพื่อให้ทุกอย่างเสร็จทันตามกำหนดก่อนที่มหกรรมการแข่งขันกีฬาของชาวเอเชีย ตะวันออกเฉียงใต้จะเริ่มขึ้นในเดือนธันวาคมนี้

ล่าสุด คณะกรรมการจัดการแข่งขันซีเกมส์ของประเทศลาว(ลาว SOC) ได้รายงานความพร้อมสำหรับการแข่งขัน ซีเกมส์ 2009 ที่จะจัดขึ้นในเวียงจันทน์ ทั้งเรื่องถนนโครงการทำความสะอาด, ความปลอดภัย, การตลาด, การขนส่ง, ระบบไฟฟ้าและการขนส่งสำหรับนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ ซึ่งส่วนใหญ่ถนนและอาคารสำหรับการแข่งขันกีฬา ซีเกมส์ นั้นเสร็จสมบูรณ์แล้ว เหลือแต่ในส่วนของถนนนั้นสายสำคัญนั้นยังไม่แล้วเสร็จ

สนามกีฬาทางน้ำ

สำหรับสนามกีฬาแห่งชาติที่เปรียบเสมือน สปอร์ตคอมเพล็กซ์ รวมเอาทุกสนามการแข่งขันไว้ในจุดเดียว พบความคืบหน้าที่มีมากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ โดยสนามกีฬาหลัก หรือ Main Stadium ซึ่งจะใช้ในพิธีเปิด-ปิดการแข่งขันมีความจุ 2 หมื่นคนเมื่อสอบถามเจ้าหน้าที่จึงทราบว่าเหลือเพียงรายละเอียดของการลงระบบ แสงสีเสียงและเครื่องมือสื่อสารต่างๆ ก็จะเสร็จสมบูรณ์พร้อมใช้อย่างเป็นทางการแน่นอนในวันที่ 9 ธันวาคมนี้

หมู่บ้านนักกีฬา

ความ พร้อมที่เห็นชัดคือ หมู่บ้านนักกีฬาที่เสร็จเรียบร้อยมีด้วยกัน 8 อาคาร สูง 5 ชั้น รองรับนักกีฬาได้ 3,000 คน สวยงามทีเดียวเพราะทุกหลังทาสีเหลืองสดใส สะอาดร่มรื่นด้วยบรรยากาศของต้นไม้ที่อยู่บริเวณรอบหมู่บ้านนักกีฬา

สนามกีฬาในร่ม

สนามกีฬากลางที่จะเป็นสนามใช้ในพิธีเปิด-ปิด และฟุตบอล รวมถึงกรีฑา ก็อยู่ในสภาพที่พร้อมแล้ว ส่วนศูนย์สื่อมวลชนใช้ หอประชุมแห่งชาติที่หลัก 8 เป็นสำนักงานของสื่อทุกชาติ ซีเกมส์แข่งที่ไหนบ้างสำรวจมาแล้ว เอาเป็นว่ากีฬาที่จะแข่งที่สนามแห่งชาติ มี ฟุตบอล,กรีฑา,ว่ายน้ำ,แบดมินตัน,กอล์ฟ,ยิงปืน,เทนนิส,วอลเล่ย์บอล และวอลเล่ย์บอลชายหาด

สนามกีฬาว่ายน้ำ

ส่วนที่สนามกีฬาภายในมหาวิทยาลัยแห่งชาติลาว จะมีฟุตบอลหญิง,มวยสากล,ปิงปอง,เทควันโด้,ยกน้ำหนัก,ฟันดาบ,เปตอง ที่ เชา อัน หว่อง สปอร์ตเซ็นเตอร์ จะมี ฟุตบอลหญิง,ยูโด,คาราเต้โด้, ส่วนที่ ลาว ไอเทค สปอร์ตเซ็นเตอร์ จะมีเซปักตะกร้อและวูซู

การซ้อมพิธีเปิด

ด้านของการฝึกซ้อมพิธีการเปิด-ปิดซีเกมส์ต่างๆ ชาวลาวได้ทุ่มเทอย่างเต็มที่ด้วยการเกณฑ์นักเรียน กว่า 3 พันคนทั่วประเทศมาร่วมแสดงและตั้งใจฝึกซ้อมกันอย่างเต็มที่ ซ้อมหนักทุกวันตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงเย็น ดูแล้วคงต้องเอาใจช่วยกันเต็มที่ให้ซีเกมส์หนนี้ของลาวจัดออกมาได้ประทับใจ แขกผู้มาเยื่อนทั้งนักกีฬา เจ้าหน้าที่ และผู้ชมนักท่องเที่ยวชาวต่างให้มากที่สุด

การซ้อมพิธีเปิด

ถึงเวลานี้ต้องยอมรับว่า สปป.ลาว พร้อมแล้วที่จะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันซีเกมส์ครั้งที่ 25 ระหว่างวันที่ 9-18 ธ.ค. เหลือแต่เพียงการประชาสัมพันธ์ที่ต้องเพิ่มความเข้มข้นขึ้นมาอีกหนึ่งระดับ เพื่อให้เวียงจันทร์เกมส์ เป็นการเปิดสปป.ลาวสู่สายตาชาวโลกได้อย่างสมบูรณ์แบบภายใต้บรรยากาศที่อบอวล ไปด้วยมิตรภาพ และอัธยาศัยอันดีดังที่พี่น้องลาวทุกคนหวังเอาไว้

ที่มาข่าว ไทยรัฐออนไลน์ - http://www.thairath.co.th/content/sport/46715

Social Bookmarks:

Technorati del.icio.us Stumbleupon Reddit Digg it Facebook Twitter MySpace Yahoo! My Web Google Windows Live Gmail